สรุปบทความ เรื่อง “จุดประกายเด็กคิดนอกกรอบ ....สนุกคิดกับของเล่นวิทย์”
ของเล่นนั้น อยู่คู่กับเด็กทุกคน
ทั้งของเล่นพื้นบ้านที่เกิดจากภูมิปัญญาไทยสืบทอดมาตั้งแต่โบราณกาล และของเล่นวิทยาศาสตร์
ที่สามารถกระตุ้นและจุดประกายความสนใจในวิทยาศาสตร์ให้แก่เด็กๆ
ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์มาอธิบายได้
โดยเฉพาะในเรื่องของวิทยาศาสตร์พื้นฐาน
ด้วยสโลแกนประจำใจของคุณครูนพพร
ก็คือ “เรียนสนุก นั่งลุกสบาย
ได้ความรู้” กล่าวคือ
เวลาที่เรียน นักเรียนไม่จำเป็นต้องนั่งอยู่กับที่
สามารถเคลื่อนไหวได้ตามธรรมชาติของเด็กๆ เพราะคุณครูรู้ดีว่า เด็กๆ ในวัยนี้
อดรนทนไม่ได้ที่จะนั่งอยู่กับที่นานๆ
นักเรียนจึงมีความสุข แฮปปี้มากๆ
ในยามที่ได้เรียนกับคุณครูท่านนี้
กิจกรรม “สนุกคิดกับของเล่นวิทยาศาสตร์” นี้เด็ก ๆ
จะได้ทั้งความสนุกสนาน ประสบการณ์ ใหม่ๆ
การแสดงความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และคิดนอกกรอบ
ในส่วนของวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการสอนนั้นก็หาไม่ยาก
ได้มาจากวัสดุในท้องถิ่น หรือวัสดุเหลือใช้ เช่น
กระดาษ ขวดพลาสติก หลอดกาแฟ แก้วพลาสติก เป็นต้น
เพียงแค่ใช้กรรไกร ไม้บรรทัด
คัทเตอร์ กาว สก๊อตเทป
ผสมผสานกับจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ในเชิงออกแบบและเทคโนโลยีระดับประถมเข้าไป
ก็ออกมาเป็นของเล่นแสนสนุกแบบต่างๆ และสามารถอธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ได้มากมาย
แตร ทำจากขวดพลาสติกใส เทปกาว ลูกโป่ง วิธีเล่น คือ เป่าลมลงไปตรงรูเล็กๆ
ด้านข้างของขวดที่เจาะไว้ก็จะเปิดเสียง
แตรของเล่นนี้ ใช้หลักการที่ทำให้เกิดเสียงเหมือนเครื่องดนตรีชนิดเป่าต่างๆ
หลอดหมุน เป็นของเล่นที่สร้างจากหลอดแบบงอ 2
หลอด ที่มีขนาดใหญ่กว่ากันเล็กน้อย
ใช้หลักการทำงานของแรงดันอากาศที่เป่าจะผ่านหลอดออกมาทางรูที่ตัดปลายเฉลียงไว้
จะผลักอากาศด้านนอกขับเคลื่อนหลอดไปข้างหน้า จึงทำให้หลอดหมุนไปรอบๆ
คุณครูนพพร มีช้าง กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการทำกิจกรรมการเรียนการสอนนี้ว่า “ครูต้องการให้เด็กสนใจวิทยาศาสตร์ ให้รู้หลักการง่ายๆ
อยากให้นักเรียนมีความสุข
ให้เกิดความรู้ที่ตกตะกอนในใจที่นักเรียนได้มาจากการคิดด้วยตัวเอง ได้ลงมือทำ
และเรียนอย่างมีความสุข”
“การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ให้กับผู้เรียนนั้น ครูสามารถจัดได้ทั้งในโรงเรียน นอกห้องเรียน
ทุกที่และทุกสถานการณ์ ครูจะทำอย่างไรให้สนุกกับการเรียนรู้
ทำให้นักเรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้กับชีวิตประจำวัน เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้
สนใจโลกแห่งวิทยาศาสตร์ อยากรู้อยากเห็น ต้องการค้นหาคำตอบของปัญหานั้นๆ” ครูนพพรกล่าวทิ้งท้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น